น้ำมันงาดำ SmileDrops
-
น้ำมันงาบริสุทธิ์สกัดเย็นจากธรรมชาติ 100%
-
ควบคุมดูแลโดย ดร.ภาณี ทองพำนัก นักวิจัยเชี่ยวชาญพิเศษด้านเทคโนโลยี และพันธุ์พืช
-
ผลิตจากงาดำ สกัดแบบบีบเย็น แคปซูลแบบซอฟเจล
-
แคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า
-
เลขที่ อย. 11-1-10249-1-0116
น้ำมันงาดำ 1 กระปุก 30 แคปซูล
ราคา 300 บาท
น้ำมันงา สกัดเย็นบริสุทธิ์ SmileDrops
น้ำมันงา SmileDrops ผ่านกระบวนการสกัดเย็นโดยการบีบ อัด และไม่ใช้ความร้อน รวมถึงสารเคมีเพื่อให้ได้น้ำมันงาที่ดี แล้วกรองเอาเฉพาะส่วนของน้ำมันงาบริสุทธิ์ที่มีสีใส สะอาด ไม่มีกลิ่นหืน ที่สำคัญเป็น น้ำมันงาบริสุทธิ์สกัดเย็นจากธรรมชาติ 100% ซึ่งกรรมวิธีการผลิตมีมาตรฐานควบคุมดูแลโดย ดร.ภาณี ทองพำนัก นักวิจัยเชี่ยวชาญพิเศษด้านเทคโนโลยีและพันธุ์พืชมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน และเป็นที่ปรึกษาชมรมเกษตรอินทรีย์แห่งประเทศไทย
น้ำมันงาดำ (Black Sesame)
ตัวช่วยสำคัญในการ บำรุงร่างกายเกือบครบทุกสัดส่วน ทั้งผม ผิวพรรณ เล็บ กระดูก ระบบขับถ่าย หัวใจ สมอง และระบบไหลเวียนเลือด เหมาะกับทุกวัย แม้กระทั่งเด็กที่มีอาการป่วยอยู่แล้ว หรือผู้หญิงที่กำลังก้าวเข้าสู่วัยทอง งาดำจำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยป้องกันโรคภาวะกระดูกพรุนอย่างได้ผล
โดยมีกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และ 9 สูง วิตามินอี แคลเซียมที่มีมากกว่านมวัวถึง 6 เท่า เซซามิน และเซซาโมลิน ซึ่งมีสรรพคุณในการต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันการเสื่อมของเซลล์ ลดเลือนริ้วรอย เสริมสร้างกล้ามเนื้อ แทรกซึมเข้าไปในทุกระบบของร่างกาย น้ำมันงาดำ นอกจากมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้ว ยังมีสารเซซามิน ที่มีฤทธิ์สำหรับอาการปวด และอักเสบของการปวดข้อ ปวดเข่า ข้อเสื่อม และมีสารต้านอนุมูลอิสระชั้นสูง โดยในร่างกายของเราควรจะมีกรดไขมันโอเมก้า 9 อยู่ในสัดส่วนที่ถูกต้องเมื่อเทียบกับโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6
-
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงเส้นผม และกระดูก หรือข้อเข่า
-
ช่วยบำรุงหนังศีรษะ และเส้นผมให้ชุ่มชื้น ผมดกดำเงางาม
-
ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และเพิ่มความยืดหยุ่นไขข้อ และกล้ามเนื้อ
-
สร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง และชะลอการเสื่อมของมวลกระดูก
-
ลดอาการปวด และการอักเสบของข้อเข่า
-
ช่วยให้ระดับคอเลสเตอรอลในเลือดลดลง สุขภาพหัวใจแข็งแรงขึ้น
-
ส่วนสำคัญในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
-
บำรุงสมองช่วยให้ความจำดี ไม่เป็นโรคสมองเสื่อม และโรคพาร์กินสัน
ส่วนประกอบสำคัญของน้ำมันงาดำ สมายด์ดรอป
-
กรดไลโนเลนิค/ โอเมก้า 3 1.3 mg. 0.26 %
-
กรดไลโนเลอิค/ โอเมก้า 6 228 mg. 45.6 %
-
กรดโอเลอิค/ โอเมก้า 9 188 mg. 37.6 %
-
โปรตีน 1.5 mg. 0.3 %
-
วิตามินอี 3.8 mg. 0.7 %
ลักษณะน้ำมันงาที่ดี
น้ำมันงาที่สกัดจากเมล็ดงาสดนั้น น้ำมันที่ได้จะมีสีเหลืองใสคล้ายกับน้ำมันพืชชนิดอื่น โดยมีสรรพคุณมากกว่าน้ำมันงาที่ได้จากเมล็ดคั่ว แต่จะไม่มีกลิ่นหอมเท่านั้น และเมล็ดงาจะประกอบด้วยน้ำมันงาประมาณ 35 - 60 % ซึ่งน้ำมันงาที่ดีจะมีลักษณะ ดังนี้
1. ประกอบด้วยกรดไขมันที่ไม่อิ่มตัวสูง ที่สามารถช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอลในร่างกายไม่ให้มากเกินไป
2. น้ำมันงาสามารถเก็บไว้ได้นาน
3. น้ำมันงาไม่จับตัวกันเป็นก้อน
ข้อแตกต่างระหว่าง กินงาทั้งเม็ด กับ น้ำมันงา
อาหารและสารอาหารบางอย่างไม่สามารถดูดซึมเข้าร่างกายไปได้หมด ถ้ารับประทานเข้าไปร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ถ่ายออกมาเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ก็มี เช่น เม็ดงาดำ เม็ดงาขาว ถ้าไม่บด ไม่ทำให้เป็นผงก่อนกิน ร่างกายจะได้รับสารอาหารในปริมาณน้อย เพราะโครงสร้างของเม็ดงาแข็งแรงมาก เอนไซม์ไม่สามารถย่อยสลายได้หมด แต่การที่จะทำให้งาดำ งาขาวเกิดสรรพคุณอย่างเต็มคุณค่านั้นต้องผ่านกระบวนการบีบเย็นก่อน ซึ่งเป็นในรูปแบบของน้ำมันงาจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ร่างกายจะดูดซึมสารอาหารได้อย่างเต็มที่
และมักมีคำถามให้พบบ่อยๆว่าทานงาป่นดีกว่าไหม? ตอบได้เลยว่า สามารถทานงาป่นได้ แต่อาจจะทำให้ติดเชื้อราได้ง่าย เหม็นหืนด้วย และคำถามสุดท้าย คือ ทานงาคั่วดีกว่าไหม ตอบได้ว่า งาดำ งาขาวที่คั่วสามารถเอาไปรับประทานได้อยู่แล้ว แต่ต้องมีความมั่นใจว่าไม่มีสารพิษปนเปื้อน เพราะถ้าเราไม่มีการตรวจที่ดีอาจจะมีเชื้อราปะปนอยู่โดยที่ไม่สามารถรู้ได้ การคั่วงาที่มีอุณหภูมิสูงเกินไปก็อาจจะทำให้เกิดสารพิษได้ ส่วนงาที่ไหม้ทำให้โปรตีนหรือสารต่างๆในงาดำ งาขาวนั้นหายไป
กินงามีคุณค่าดั่งได้หยก
ชาวจีนนิยมกินงา และยังถือว่า “น้ำมันงา” เป็นยาอายุวัฒนะ ส่วนในตำราอินเดีย ยังกล่าวสรรพคุณของงาไว้ว่า งาเป็นยาบำรุงร่างกาย ทำให้ร่างกายมั่นคงแข็งแรง แต่เดิมงาเป็นพืชพื้นเมืองของเอเชีย หรือตะวันออกของแอฟริกา แต่ปัจจุบันพบได้ในพื้นที่เขตร้อน และกึ่งร้อน ส่วนชาวจีนรู้จักคุณค่าของงามานาน โดยนิยมกินงาเพื่อเป็นยาอายุวัฒนะ นอกจากนั้นพวกเขายังเผาเมล็ดงาเพื่อใช้ทำแท่งหมึกจีนที่มีคุณภาพดี ส่วนชาวโรมันบดเมล็ดงาผสมขนมปังเป็นอาหารรสดี ชาวไทยก็มีขนมที่ใช้เมล็ดงา เรียกว่า ขนมงาตัด เช่นกัน ซึ่งใช้งากวนกับน้ำตาลแล้วตัดเป็นแผ่น
มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Sesamum indicum Linn. โดยงาเป็นไม้ล้มลุกและเป็นไม้พื้นเมืองของประเทศแถบเส้นศูนย์สูตร แสดงถึงการพบต้นไม้ชนิดว่าอยู่ในแถบดินแดนโอเรียนเต็ลนี้เอง ซึ่งก็รวมถึงประเทศไทยด้วย มีการปลูกงามากที่ประเทศจีน อินเดียไปจนถึงเม็กซิโก และสหรัฐอเมริกา งาเป็นต้นไม้ขนาดเล็กสูง 1-2 เมตร มีใบบอบบาง ดอกสีขาวหรือชมพู เมื่อผลแก่จัดจะได้เมล็ดงาจำนวนมากในฝักนั้น ซึ่งในฝักมีเมล็ดเล็กๆสีขาว หรือสีดำ งาเมล็ดพืชเล็กจิ๋วที่อุดมไปด้วยสารอาหารมี 2 แบบ คือ งาดำ และ งาขาว นอกจากนี้ ยังมีน้ำมันงาที่ใช้ปรุงอาหารได้ดี เพราะมีกลิ่นหอม และกรดไขมันที่มีประโยชน์ โปรตีนในงามีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย คือ กรดอะมิโนเมธิโอนีน (ในถั่วเหลืองมีกรดอะมิโนที่จำเป็นตัวนี้น้อยกว่า) และยังมีสารที่สกัดจากงาชื่อว่า SESAME ที่ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งตับด้วย โดยชาวมังสวิรัติจะนิยมโรยงาลงไปในอาหารหรือถั่วเหลืองที่ปรุงแล้วเพื่อให้มีสารอาหารอย่างโปรตีนที่สมบูรณ์มากขึ้น
การรับประทานน้ำมันงา
-
สำหรับผู้ที่มีร่างกายแข็งแรงปกติ : รับประทาน 2 แคปซูล/วัน ให้รับประทานงาขี้ม้อน 1 แคปซูล ร่วมกับ งาขาวหรืองาดำอย่างใดอย่างหนึ่ง 1 แคปซูล ควบคู่กัน ร่างกายจะได้รับโอเมก้า 6 เป็นสัดส่วนกับโอเมก้า3 ในอัตรา 1:1 ขณะเดียวกันก็ได้รับวิตามิน E 4 - 6 มิลลิกรัม
-
สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมภูมิคุ้มกัน : รับประทาน 4 แคปซูล/วัน ให้รับประทานงาขี้ม้อน 2 แคปซูล งาขาวและงาดำ อย่างละ 1 แคปซูล ควบคู่กัน ร่างกายจะได้รับโอเมก้า 6 เป็นสัดส่วนกับโอเมก้า3 ในอัตราส่วน 1:1 ร่างกายจะได้รับโอเมก้า3 ในปริมาณ 626 มิลลิกรัม และโอเมก้า9 ประมาณ 460 มิลลิกรัม ขนะเดียวกันก็ได้รับวิตามิน E 10 มิลลิกรัม
-
สำหรับผู้ป่วย : รับประทาน 8 แคปซูล/วัน รับประทานงาขี้ม้อน 4 แคปซูล งาขาวและงาดำ อย่างละ 2 แคปซูล ควบคู่กัน ร่างกายจะได้รับโอเมก้า 6 เป็นสัดส่วนกับโอเมก้า3 ในอัตราส่วน 1:1 ร่างกายจะได้รับโอเมก้า3 ในปริมาณ 1,250 มิลลิกรัม และโอเมก้า 6 ประมาณ 920 มิลลิกรัม ขนะเดียวกันก็ได้รับวิตามิน E 20 มิลลิกรัม ซึ่งอยู่ในระดับที่แพทย์ทางเลือกแนะนำ
หมายเหตุ : ควรรับประทานอาหารที่หลากหลายครบ 5 หมู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม รับประทานผักและผลไม้ไม่หวานจัด ดื่มน้ำสะอาด งดเหล้า เลิกสูบบุหรี่ ขับถ่ายเป็นปกติ ออกกำลังงกายสม่ำเสมอ อยู่ในที่อากาศบริสุทธิ์เพื่อสุขภาพที่ดี
ขนาดบริโภคน้ำมันงาดำ SmileDrops
รับประทานวันละ 2 แคปซูล พร้อมอาหาร หรือหลังรับประทานอาหาร
หมายเหตุ : ผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และการดูแลสุขภาพอย่างถูกวิธี